รีวิวหนัง World War Z มหาวิบัติสงคราม Z

อมร เทวา
12 ม.ค. 2566
ยาว 1 นาที

World War Z น่าจะพลิกโฉมหน้าวงการหนังซอมบี้ไปเลย ฝูงผีซอมบี้ไล่ฟัด กัดจิกไม่ปล่อย แปลกจากหนังซอมบี้เรื่องอื่นๆ สร้างความระทึกชวนตื่นเต้นเค้นความเร้าใจตลอดทั้งเรื่อง ทำให้การเปิดหัวทำได้รวดเร็ว ไม่ต้องสร้างเนื้อหาซับซ้ัอน ไม่ต้องให้คนดูรอนาน หนังใช้เวลาไม่นานพาคนดูไปรู้จักครอบครัวพระเอก แล้วก็ใส่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ภายในเวลา 5 นาทีเศษ มุมภาพการมีฝูงซอมบี้เยอะๆให้อารมณ์ที่สดใหม่เหมือนว่าโลกนี้กำลังโกลาหลอยู่ ฉากแอ็คชั่นอัดแน่นเต็มแม็กซ์เล่นใหญ่โชว์ความวินาศสันตะโร บรรยากาศมันช่างลุ้นระทึก พาผู้ชมตื่นเต้นไปในทุกซีนๆ เราไม่สามารถจะไปคาดเดาได้เลยว่า Brad Pitt จะไปเจออะไรบ้าง เขาต้องแก้เกมรับมือกับการเอาตัวรอดฝูงซอมบี้ตามสถานที่ต่างๆ

เรารู้สึกว่าหนังดำเนินเรื่องให้มีความระทึกขวัญ และสามารถตัดสลับกับบทสนทนาของพระเอกได้ดีโดยไม่เสียอรรถรส งานภาพในแต่ละฉากปลุกเร้าให้ผู้ชม มีอารมณ์ร่วมแบบหายใจไม่ได้หยุดหย่อน การที่มีฝูงซอมบี้มหาศาลแบบนี้ ทีมซีจีออกแบบงานให้เข้ากับงานภาพคนแสดงจริงได้อย่างเนียนๆ มันให้ความรู้สึกที่ฟินกับผู้ชม โดยที่ตัวเรื่องใช้ประโยชน์จากความโกลาหลของซอมบี้ครองโลกให้ดูยิ่งใหญ่ และเนื้อหามันก็ยากที่จะแก้ไขได้เลย ถ้าหาก เจอร์รี่ เลน ไม่คิดรวมรวมทีมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ภาพของ World War Z สะท้อนถึงภัยร้ายที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ คนเรามักชอบประมาท พอมีเหตุการณ์วิกฤติก็แสดงฐานแท้เห็นแก่ตัวเอาตัวเองเพื่อความอยู่รอด คาแรกเตอร์ของ Brad Pitt เป็นเครื่องเตือนใจใครต่อใครว่า ถ้าไม่มีคำว่าเสียสละ ความเลวร้ายไม่มีวันจบสิ้นสักที เพราะสุดท้ายผลเสียที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็มาจากคนนี่แหละ การแสดงของพ่อ Brad ทำหนังบีบขั้นผู้ชม ต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าจะเอาตัวรอดยังไงวะ ลุ้นจนวินาทีสุดท้าย